โค้ดตัวอักษรวิ่ง ยินดีต้อนรับสู่บล็อกวิชาพลศึกษา ของ"นางสาววรรณภา บุญรอด"

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

การตีลูกไม้กระบี่กระบอง

ไม้ตีที่ 1

ท่าคุมตีลูกไม้
         ท่าคุมตีลูกไม้เป็นท่ายืนเตรียมพร้อมก่อนที่จะฝึกหัดตีลูกไม้โดยยืน เท้าชิด หันหน้าเข้าหากัน มือจับกระบี่อยู่ทางขวา ปลายกระบี่พิงอยู่ ที่ไหล่ขวา แขนเหยียดตึง โกร่งกระบี่อยู่ข้างหน้า แขนซ้ายอยู่ข้าง
ลำตัว


จากท่าคุมตีลูกไม้ จังหวะที่ 1
         ฝ่ายรุก ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า พร้อมกับยกกระบี่ขึ้นตีลงทางไหล่ซ้าย
ของฝ่ายรับ มือซ้ายยกขึ้นป้องระดับหู มือกำหลวม ๆ
         ฝ่ายรับ ถอยเท้าซ้าย พร้อมกับยกกระบี่ขึ้นรับทางไหล่ซ้าย ให้ปลาย
กระบี่เฉียงเข้าหาลำตัว มือซ้ายกำหลวม ๆ ยกขึ้นข้างหลังทางซ้าย


ฝ่ายรับ                    ฝ่ายรุก

จังหวะที่ 2
         ฝ่ายรุก ก้าวเท้าซ้ายเข้าหาคู่ต่อสู้ พร้อมกับตวัดกระบี่ไปตีลงทางด้าน
ไหล่ขวาของคู่ต่อสู้ มือซ้ายลดลงป้องอยู่ข้างหน้าลำตัว
         ฝ่ายรับ ถอยเท้าขวาไปข้างหลัง พลิกกระบี่หมุนกลับไปทางขวาเพื่อรับ
การตีของฝ่ายรุก ให้ปลายกระบี่เฉียงเข้าหาตัวพร้อมกับลดแขนซ้าย
ลงป้องกันอยู่ข้างหน้า


ฝ่ายรับ                        ฝ่ายรุก

การขึ้นพรหม

การขึ้นพรหม
           การขึ้นพรหม เป็นขนบธรรมเนียมอีอย่างหนึ่งของกระบี่กระบอง เพื่อให้มีคุณธรรมประจำใจคือ พรหมวิหารสี่ อันเป็นคุณธรรมอันประเสริฐ เป็นธรรมะที่ขจัดความพาล
ไม่นำเอาวิชากระบี่กระบองไปใช้ในทางที่ผิด เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ด้วยเหตุที่พรหมมี 4 หน้า หน้าหนึ่ง ๆ หมายถึงคุณธรรมอย่างหนึ่ง ดังนั้น
การขึ้นพรหมต้องรำให้ครบ 4 ทิศ และในการขึ้นพรหมของกระบี่กระบองนั้นมี 2 อย่างคือ
1. การขึ้นพรหมนั่ง
2. การขึ้นพรหมยืน

การขึ้นพรหมนั่ง



1. จากท่านั่งเมื่อถวายบังคมเสร็จแล้ว
หันหน้าไปทางซ้ายก้มตัวลงไหว้กระบี่
เอามือขวาจับกระบี่ มือซ้ายจีบไว้ที่หน้าอก



2. ยกกระบี่ขนานพื้น ข้ามศีรษะทางขวา
กระบี่อยู่ทางขวา ขนานพื้น โกร่งกระบี่หันออกนอกลำตัว หงายมือ ข้อศอกงอเป็นมุมฉากชิดลำตัว ตั้งเท้าขวาไว้ข้างหน้า นั่งบนส้นเท้าซ้าย
ชักเท้าขวามานั่งคุกเข่า ตั้งเท้าซ้ายไว้ข้างหน้า นั่งบนส้นเท้าขวา


     

3. โล้ตัวไปข้างหน้าโดยวางเข่าซ้ายลง ยกเท้าขวาขึ้น แล้วมือซ้ายรำหน้า
ระดับหน้าผาก
หมุนตัวกลับหลังหันทางขวา โดยยกเข่าทั้งสองขึ้น พร้อมกับวาดกระบี่
ไปทางซ้าย กระบี่ขนานพื้น
วางเข่าซ้ายลง นั่งบนส้นเท้าซ้าย ตั้งเข่าขวาขึ้น กระบี่แนบลำตัวทาง
ซ้ายมือซ้ายจีบอยู่ที่หน้าอก




4. มือซ้ายรำข้างระดับใบหู โดยให้แขนงอโค้งเล็กน้อย
วาดกระบี่ขนานพื้นไปทางขวา มือซ้ายจีบที่หน้าอก
ในขณะที่วาดกระบี่มาทางขวาสุดแล้วให้ดึงเข่าขวาวางบนพื้นและ
ตั้งเข่าซ้ายขึ้น


       
 
5. โล้ตัวไปข้างหน้าวางเข่าซ้ายลง ยกเท้าขวาขึ้น มือซ้ายรำหน้า
หมุนตัวไปทางขวา ดึงมือซ้ายมาจีบไว้ที่อก วาดกระบี่ไปอยู่ทางซ้าย
ชิดลำตัวตั้งเข่าขวาบิดเข่าซ้ายไปทางขวาวางเข่าซ้ายลงนั่งบนส้น
เท้าซ้าย
มือซ้ายรำข้าง



6. ดึงมือซ้ายมาจีบไว้ที่อก วาดกระบี่ไปทางขวากระบี่ขนานพื้น ดึงเข่า
ขวาวางไว้ที่พื้น ตั้งเข่าซ้ายขึ้น
โล้ตัวไปข้างหน้า วางเข่าซ้ายลงบนพื้น ยกเท้าขวาขึ้น แล้วรำหน้า
หมุนตัวกลับหลังหันทางขวา มือซ้ายจีบไว้ที่อก วาดกระบี่ไปทางซ้าย
กระบี่ชิดลำตัว ลุกขึ้นยืนด้วยเท้าซ้าย ยกเข่าขวาขึ้นให้ขาขวารองรับ
ศอกขวา


                           

7. มือซ้ายรำข้าง วาดกระบี่ไปข้างหน้าสองรอบ มือซ้ายจีบเข้าอก
วางเท้าขวาเฉียงไปทางขวา โล้ตัวไปข้างหน้า เข่าขวางอ เข่าซ้ายตึง
กระบี่อยู่ทางขวา อยู่ในท่าคุมรำ


การขึ้นพรหมยืน

1. ในท่าถวายบังคม วางกระบี่ให้ชี้ปลายไปข้างหน้า ห่างจากเข่า 1 คืบ



       
จากท่านั่ง เมื่อถวายบังคมเสร็จแล้ว ก้มตัวลงข้างหน้า ไหว้กระบี่
มือขวาจับกระบี่ทัดหูให้โกร่งกระบี่อยู่ข้างบนปลายกระบี่ชี้ไปข้างหน้า
มือซ้ายจีบอกพร้อมทั้งตั้งเข่าซ้าย
จ้วงกระบี่ลงทางซ้ายพร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยเท้าซ้าย หันตัวไปทางขวา
หนึ่งมุมฉาก ยกเข่าขวาขึ้นรับศอกขวา กระบี่เฉียงออก 45 องศา




2. มือซ้ายรำข้างแล้วจีบไว้ที่อก วางเท้าขวาลง
ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า 1 ก้าว กระบี่ทัดหู โล้ตัวไปข้างหน้า
ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
วางเท้าซ้ายลง จ้วงกระบี่ลงทางซ้าย ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า 1 ก้าว
พลิกระบี่ไปอยู่ข้างหน้า โกร่งกระบี่หันเข้าหาตัว กระบี่เฉียง 45 องศา

   


3. ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น
มือซ้ายรำข้าง แล้วจีบไว้ที่อก
วางเท้าขวาลงหมุนตัวกลับหลังหันทางซ้าย กระบี่ทัดหู
ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย
ยกเท้าซ้ายขึ้น




4. จ้วงกระบี่ลงทางซ้าย วางเท้าซ้ายลง แล้วก้าวเท้าขวาไปข้างหน้าอีก
1 ก้าวพร้อมกับพลิกกระบี่ไปข้างหน้าเฉียง 45 องศา โกร่งกระบี่หัน
เข้าหาตัว เข่าขวางอ เข่าซ้ายตึง
ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น
มือซ้ายรำข้าง
วางเท้าขวาข้างเท้าซ้าย หมุนตัวไปทางซ้าย ยกกระบี่ขึ้นทัดหู โกร่ง
กระบี่หันขึ้นข้างบน มือซ้ายจีบที่อก โล้ตัวไปข้างหน้า เข่าซ้ายงอเข่า
ขวาตึง




5. ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
จ้วงกระบี่ลงข้างซ้าย วางเท้าซ้ายลง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า 1 ก้าว
พลิกกระบี่ให้เฉียงขึ้นไปข้างหน้า 45 องศา หันโกร่งกระบี่เข้าหาตัว
เข่าขวางอ เข่าซ้ายตึง
ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น
มือซ้ายรำข้าง แล้วจีบไว้ที่อก
วางเท้าขวาลงข้างหน้า แล้วหมุนตัวกลับหลังหันทางซ้ายยกกระบี่ขึ้น
ทัดหู โกร่งกระบี่อยู่ข้างบน โล้ตัวไปข้างหน้า เข่าซ้ายงอ เข่าขวาตึง




6. ลากเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ยกเท้าซ้ายขึ้น
จ้วงกระบี่ลงข้างซ้าย วางเท้าซ้ายลง ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า 1 ก้าว
พลิกกระบี่ให้เฉียงขึ้นไปข้างหน้า 45 องศา หันโกร่งกระบี่เข้าหาตัว
เข่าขวางอ เข่าซ้ายตึง
ลากเท้าซ้ายชิดเท้าขวา ยกเท้าขวาขึ้น
มือซ้ายรำข้าง แล้วจีบไว้ที่อกวางเท้าขวาลงข้างหน้า แล้วหมุนตัว
กลับหลังหันทางซ้ายยกกระบี่ขึ้นทัดหู โกร่งกระบี่อยู่ข้างบนโล้ตัว
ไปข้างหน้า เข่าซ้ายงอ เข่าขวาตึง




7. มือซ้ายรำข้าง แล้วจีบไว้ที่หน้าอก
ควงกระบี่สองรอบ
วางเท้าขวาเฉียงไปทางขวา กระบี่อยู่ข้างขวา แขนขวาชิดลำตัว
ศอกเป็นมุมฉาก กระบี่ขนานพื้น โล้ตัวไปข้างหน้าอยู่ในท่าคุมรำ

ไม้รำกระบี่กระบอง 12 ไม้รำ

ท่ารำกระบี่-กระบอง 12
  มีดังนี้ 
    1. ไม้รำที่ 1 ลอยชาย ทิศในการเดิน เดินเฉียงแบบสลับฟันปลาเริ่มจากท่าคุมรำ
จังหวะที่ 1 ก้าวเท้าซ้ายเฉียงไปขวา วางเท้าซ้ายลงหน้าเท้าขวาลักษณะทำกึ่งขวาหันโล้น้ำหนักตัวไปข้างหน้า เข่าซ้ายงอเล็กน้อย
จังหวะที่ 2 ก้าวเท้าขวาชิดเท้าซ้าย ลำตัวตรง รักษาระดับกระบี่ให้ขนานพื้น
จังหวะที่ 3 ยกเข่าซ้ายขึ้นตั้งฉาก ปลายเท้างอขึ้น แล้วใช้มือซ้ายรำหน้าให้ตัวนิ่ง
จังหวะที่ 4 หมุนตัวไปทางซ้าย 1 มุมฉากวางเท้าซ้ายลงพร้อมกับวางกระบี่ ให้กระบี่ขนานกับพื้นไปทางซ้ายของลำตัวระดับเอว ปลายกระชี่ชี้ไปข้างหน้า มือซ้ายจีบที่หน้าอก
จังหวะที่ 5 ก้าวเท้าขวาเลยเท้าซ้ายไปข้างหน้า
จังหวะที่ 6 ก้าวเท้าซ้ายชิดเท้าขวา
จังหวะที่ 7 ยกเข่าขวาขึ้นตั้งฉาก ปลายเท้างอขึ้นพร้อมก้มเหยียดแขนซ้ายอกรำข้าง
(จบไม้รำที่ 1 ลอยชาย)อ่านเพิ่มเติม



ประวัติกระบี่กระบอง

ประวัติกระบี่กระบอง
          การเล่นกระบี่กระบองเป็นพื้นฐานเบื้องต้นส่วนหนึ่งของศิลปะการต่อสู้ของไทย ที่เรียกว่า กระบี่กระบอง เพราะเป็นกีฬาที่บรรพบุรุษไทยนำเอาศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยอาวุธที่ใช้สู้รบกันในสมัยโบราณ มาฝึกซ้อมและเล่นในยามสงบ โดยนำหวายมาทำเป็นกระบี่ ดาบ ง้าว ฯลฯ เอาหนังมาทำโล่ เขน ดั้ง ฯลฯ แล้วจัดมาตีต่อสู้กันเล่นหรือแข่งขันกันเป็นคู่ ๆ ดุจสู้กันในสนามรบเป็นการฝึกหัดรุกและรับไปในตัวอ่านเพิ่มเติม